ข่าวประชาสัมพันธ์
จัดทำระบบสื่อการสอน Offline และ Online พร้อมเป็นวิทยากรแนะนำการใช้งานสื่อให้กับโรงเรียนบ้านร้องเชียงแรง อำเภอภูซาง
12, 15 พฤษภาคม 2560 โรงเรียนบ้านร้องเชียงแรง อำเภอภูซาง ได้ดำเนินโครงการพัฒนาบุคลากรด้านสารสนเทศ เพื่อนำไปใช้ในการเรียนการสอนโดยจัดทำระบบสื่อการสอน Offline และ Online พร้อมเป็นเชิญ นายสุพจน์ ชัยชนะ เจ้าหน้าที่ ict เป็นวิทยากรแนะนำการใช้งานสื่อให้กับโรงเรียนบ้านร้องเชียงแรง อำเภอภูซาง |
มติ ครม.เมื่อ 12 ม.ค.59 ที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษา
มติ ครม.ที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษา อนุมัติโครงการทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี ระยะที่ 2 ศึกษาธิการ - พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ 12 มกราคม 2559 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ คือ อนุมัติการดำเนินงานโครงการทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี ระยะที่ 2 และขออนุมัติปรับเพิ่มอัตราทุนเดิม รวมทั้งการพิจารณาทบทวนเพื่อเพิ่มสัดส่วนการใช้ยางพาราในวัสดุ ครุภัณฑ์ และสิ่งก่อสร้างของกระทรวงศึกษาธิการ - อนุมัติการดำเนินงานโครงการทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี ระยะที่ 2 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ ดังนี้ 1. อนุมัติการดำเนินงานโครงการทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี ระยะที่ 2 จำนวน 600 คน/ทุน/ปี จำนวน 10 รุ่น รวม 6,000 คน/ทุน โดยแต่ละทุนจะได้รับทุนการศึกษาต่อเนื่อง ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 – 2577 ระยะเวลา 17 ปีการศึกษา (18 ปีงบประมาณ) หรือผู้รับทุนจบครบตามระยะเวลาของหลักสูตรในระดับปริญญาตรี 2. อนุมัติการปรับเพิ่มอัตราทุนการศึกษาให้กับผู้รับทุนที่กำลังศึกษาในโครงการทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี ในปีการศึกษา 2558 จำนวนทั้งสิ้น 1,801 รูป/คน ระยะเวลา 5 ปี จนสิ้นสุดโครงการฯ เดิม สาระสำคัญของเรื่อง เนื่องในโอกาสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เจริญพระชนมายุ 5 รอบ 60 พรรษา ซึ่งทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษา โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดารอย่างต่อเนื่อง ศธ. จึงได้จัดทำโครงการทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี ในระยะที่ 2 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1. ขอขยายโครงการทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี ระยะที่ 2 จำนวน 10 รุ่น จำนวน 600 ทุน/ปี รวม 6,000 ทุน (เดิมปีละ 480 ทุน) โดยแบ่งสัดส่วนผู้รับทุนสังกัด สพฐ.:สอศ.:พศ. คือ 35 : 50 :15 ของจำนวนทุนที่จัดสรร 600 ทุน/ปี โดยมีผู้รับทุนในสังกัด สพฐ. จำนวน 210 คน/ปี สังกัด สอศ. จำนวน 300 คน/ปี และสามเณรในสังกัด พศ. จำนวน 90 รูป/ปี 2. ขอขยายอัตราทุนให้กับผู้รับทุนการศึกษาโครงการฯ ระยะที่ 2 และขอปรับเพิ่มอัตราทุนให้กับผู้รับทุนการศึกษาโครงการฯ ระยะที่ 1 (โครงการเดิม) เนื่องจากปัจจุบันค่าครองชีพได้ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ค่าอุปโภคและบริโภคมีราคาสูงขึ้น ประกอบกับผู้รับทุนในโครงการฯ ระยะที่ 1 ต้องหารายได้เสริมหลังจากเลิกเรียนแล้ว เช่น เป็นครูผู้สอนให้กับรุ่นน้อง
- ความต้องการใช้ยางพาราในการดำเนินโครงการของส่วนราชการ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบปริมาณความต้องการใช้ยางพาราและวงเงินงบประมาณของส่วนราชการ โดยมีมติให้ส่วนราชการพิจารณาทบทวนเพื่อเพิ่มสัดส่วนการใช้ยางพาราในวัสดุ ครุภัณฑ์ และสิ่งก่อสร้างต่างๆ โดยคำนึงถึงคุณลักษณะเฉพาะที่มีความเหมาะสมทางด้านเทคนิคนั้น ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ กำลังรวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลการนำยางพารา มาสร้างสนามกีฬาให้กับโรงเรียนต่างๆ ซึ่งจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนสนามที่จะสร้างในเร็วๆ นี้ คาดว่าจะสามารถนำยางพารามาสร้างสนามกีฬาหลายประเภทจำนวนกว่า 10,000 สนาม ซึ่งจะเป็นสนามกีฬาที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ประมาณ 15x15 เมตร และจะเชิญหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาประชุมหารือเพื่อหาแนวทางการดำเนินงานอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ จะพิจารณาตามความเหมาะสมและความจำเป็นเร่งด่วน รวมทั้งคำนึงถึงงบประมาณด้วย โดยเบื้องต้นคาดว่าจะนำงบประมาณประจำปี 2559 จำนวนกว่า 500 ล้านบาท มาใช้ในการสร้างสนามกีฬาดังกล่าว ส่วนงบประมาณที่เหลือจะเสนอให้รัฐบาลพิจารณาอีกครั้ง นอกจากนี้ มีบางโรงเรียนที่ขอดำเนินการก่อสร้างทั้ง 3 สนาม คือ ฟุตซอล วอลเลย์บอล และตระกร้อ จึงต้องพิจารณางบประมาณด้วยว่าจะสามารถสนับสนุนการก่อสร้างได้มากน้อยเพียงใดโดยอาจจะพิจารณาให้สร้างสนามฟุตซอลก่อน เพราะมีขนาดใหญ่และสามารถแปลงเป็นสนามวอลเลย์บอล รวมทั้งสนามตระกร้อได้ อีกทั้งความพร้อมของโรงเรียนในการสร้างสนามกีฬาก็มีความสำคัญ เพราะจะต้องทำการสำรวจสนาม และการให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของนักเรียนด้วย ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการยังไม่ได้ทำสัญญาว่าจ้างบริษัทหรือภาคเอกชนในการสร้างสนามกีฬาดังกล่าว และจะไม่เอื้อประโยชน์ให้กับใครทั้งสิ้น แต่จะเอื้อประโยชน์ให้เกษตรกรสวนยาง ซึ่งกำลังเดือดร้อน เพราะราคายางตกต่ำ โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะเป็นผู้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวตามระบบการจัดซื้อจัดจ้างต่อไป
ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2016/jan/018.html |
สปท.ถก ศธ.วางแนวทางปฎิรูปการศึกษา แนะติดตั้งกล้องวงจรปิดดูพฤติกรรมการสอนครู ศธ.เล็งส่งครูเข้าห้องสอบวัดความรู้ในเรื่องที่จะสอนเด็ก ก่อนเข้าสอนจริง
สปท.ถก ศธ.วางแนวทางปฎิรูปการศึกษา แนะติดตั้งกล้องวงจรปิดดูพฤติกรรมการสอนครู ศธ.เล็งส่งครูเข้าห้องสอบวัดความรู้ในเรื่องที่จะสอนเด็ก ก่อนเข้าสอนจริง วันนี้ (11 ม.ค.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการประชุมขับเคลื่อนงานปฎิรูปการศึกษาร่วมกับ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทาง สปท.มีข้อเสนอแนะเรื่องการพัฒนาครู ว่า อยากเห็นการพัฒนาครูที่เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่พูดว่าจะพัฒนาเท่านั้น โดยอยากให้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดระหว่างครูจัดการเรียนการสอนให้แก่นักเรียน เพื่อดูว่าครูสอนอย่างไร และความปลอดภัยในเด็กเล็ก "ส่วนการพัฒนาครูในระบบนั้น กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีแนวคิดจะดำเนินโครงการการพัฒนาครู โดยครู และคนที่จะไปฝึกอบรมให้ครู ไม่ว่าจะสาขาไหนก็ตาม จะต้องผ่านการวัดผลเหมือนที่ต้องไปสอนเด็กด้วย เช่น จะสอนให้เด็กมีคะแนนเพิ่มในวิชาคณิตศาสตร์ ครูก็ต้องไปทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต เหมือนเด็ก เพื่อทดสอบว่าครูมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่จะสอนมากน้อยแค่ไหน เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานทั้งครูและเด็ก” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว น.ส.ปิยะธิดา ประดิษฐบาทุกา กรรมาธิการด้านการศึกษา สปท. กล่าวว่า สปท.ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการดูแลการศึกษาใน4ด้าน ได้แก่ 1.การปฏิรูประบบเรียนรู้ ปฏิรูปโครงสร้าง ศธ. 2.ปฏิรูปการจัดการ3.ปฏิรูประบบการประเมิน การประกันคุณภาพการศึกษา และ4.ดูแลวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่ง สปท.ได้หารือร่วมกับ ศธ.มาโดยตลอด เพื่อให้การทำงานสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับนโยบายของ ศธ.และเกิดผลสำเร็จภายในระยะเวลาอันจำกัด น.ส.ปิยะธิดา กล่าวด้วยว่า เรื่องการปรับโครงสร้าง ศธ.นั้น สปท.ได้ร่วมให้ข้อเคิดเห็นและวิเคราะห์ระบบงานร่วมกับ ศธ. โดยจะมีการพิจารณาแบ่งกลุ่มงาน ว่า ในโครงสร้าง ศธ.ใหม่ ควรจะมีกลุ่มงานใดบ้าง เช่น กลุ่มงานด้านนโยบาย ด้านการปฏิบัติการเรียนการสอน ด้านการสนับสนุน ด้านการกำกับคุณภาพ และการวิจัยพัฒนา เป็นต้น เพื่อให้ ศธ.สามารถดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์.
|
′บิ๊กหนุ่ย′สั่ง สพฐ.แปลงงบฯ500ล.ซื้อยางสร้างสนามกีฬา-ฟุตซอล-ตะกร้อ-วอลเลย์
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ 8 กระทรวง รวบรวมความต้องการไปยังสำนักเลขาธิการไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ว่าจะช่วยรับซื้อยางเพื่อนำไปใช้ในความรับผิดชอบของแต่ละกระทรวงอย่างไรบ้างนั้น ศธ.ได้สอบถามความต้องการไปยังโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ และได้ส่งข้อมูลเบื้องต้นไปยัง สลค.แล้ว โดยมีโรงเรียนที่ต้องการสร้างสนามฟุตซอล ขนาดใหญ่ 42x25 เมตร และขนาดเล็ก 25x18 เมตร รวม 6,200 สนาม สนามตะกร้อ 6,900 สนาม สนามวอลเลย์บอล 7,400 สนาม และสนามเด็กเล่นสำหรับเด็กอนุบาลอีก 12,000 สนาม ซึ่งตนได้ขอให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดูว่าจะไปเปลี่ยนแปลงงบประมาณ 2559 ตรงส่วนใดมาช่วยเหลือตรงส่วนนี้ได้บ้าง โดยขอไปว่าอย่างน้อยไม่ควรต่ำกว่า 500 ล้านบาท
|
รับสมัครโรงเรียนแกนนำ
ประกาศรับสมัครโรงเรียนแกนนำ DLIT สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 2 แจ้งให้โรงเรียนในสังกัดที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกลผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT) เพื่อเป็นโรงเรียนแกนนำ ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 2 จะดำเนินการจัดอบรมให้กับสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ โดยสมัครได้จากที่นี้ และจะประกาศรายชื่อโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการในโอกาสต่อไป |